การลงทุนในโลหะมีค่าอย่างประสบความสำเร็จ

การลงทุนในทองคำ (XAU)

เมื่อคุณวางแผนจะลงทุนในทองคำ อย่าคาดหวังว่ามันจะเป็นการซื้อหรือขายทองคำแท่ง แต่คุณจะทำการซื้อขายผ่านราคาสปอตของทองคำ ราคาทองคำนี้ถูกขับเคลื่อนโดยปัจจัยต่าง ๆ และสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลก มาดูกันว่าทำไมทองคำถึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับกลยุทธ์การลงทุนของคุณ

ทองคำมีบทบาทสำคัญในตลาดการเงินมาเป็นเวลานาน ในยุคก่อนหน้านี้ มันถูกใช้เพื่อสนับสนุนค่าเงินเฟียต ในช่วงยุคมาตรฐานทองคำ ธนบัตรกระดาษต้องมีทองคำในปริมาณเท่ากันสำรองไว้ในคลังของประเทศ

ตั้งแต่ทศวรรษ 1980 จนถึงต้นทศวรรษ 2000 ความสนใจในทองคำได้ลดลงอย่างมาก เนื่องจากหุ้นที่กำลังเติบโตและเศรษฐกิจโลกที่แข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ ในช่วงเวลานั้น ราคาทองคำอยู่ในช่วงประมาณ 300 ถึง 500 ดอลลาร์สหรัฐ เท่านั้น แต่ความสนใจในทองคำได้กลับมาอีกครั้งหลังวิกฤตการเงินปี 2008 และราคาทองคำได้พุ่งสูงถึง 1,907 ดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนสิงหาคมปี 2011 แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้ทำให้ทองคำอ่อนค่าลงตั้งแต่ปี 2013 แต่ทองคำก็ยังคงเป็นที่สนใจของนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง

ทำไมนักลงทุนถึงเลือกทองคำ?

• ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ยังคงมีความมั่นคงแม้ในยามไม่แน่นอน ทั้งในช่วงที่ตลาดการลงทุนตกต่ำ หนี้สาธารณะสูงมาก สกุลเงินอ่อนค่า เงินเฟ้อสูง สงคราม และความไม่มั่นคงทางสังคม

• ระบบมาตรฐานทองคำในอดีตทำให้ทองคำมีลักษณะคล้ายสกุลเงินมากกว่าจะเป็นเพียงสินค้า

• ทองคำทำหน้าที่เป็นวัตถุแห่งการเก็งกำไร

• ทองคำเป็นสากล: ทนทาน พกพาง่าย และเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง

ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อราคาทองคำ

ทองคำไม่ได้ได้รับการสนับสนุนจากระดับการจ้างงาน การผลิต และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งแตกต่างจากสกุลเงินหลัก ทองคำสามารถเปรียบเทียบกับสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น น้ำมันหรือข้าวโพด ในแง่ที่ว่าพวกมันทั้งหมดมีลักษณะทางกายภาพ อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวอย่างอิสระจากอุปสงค์และอุปทานทางอุตสาหกรรม

นี่คือปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดของราคาทองคำ:

1. ทุนสำรองของธนาคารกลาง ธนาคารกลางถือครองทองคำเพื่อวัตถุประสงค์ในการกระจายความเสี่ยง นอกจากนี้ ทองคำยังสามารถใช้เป็นแหล่งเงินทุนสำหรับสภาพคล่องฉุกเฉินหรือการแทรกแซงค่าเงินอีกด้วย นอกจากนี้ ธนาคารกลางยังคำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจของประเทศเมื่อตัดสินใจซื้อหรือขายทองคำ ตัวอย่างเช่น หากธนาคารกลางตัดสินใจกระจายทุนสำรองทางการเงิน ราคาทองคำก็จะเพิ่มสูงขึ้น

2. การหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ความรู้สึกในตลาดหุ้นยังมีบทบาทสำคัญต่อราคาทองคำ หากแนวโน้มการลดความเสี่ยงเพิ่มขึ้น นักลงทุนมักจะเทขายหุ้นและหันไปลงทุนในทองคำซึ่งปลอดภัยและมีเสถียรภาพมากกว่า

3. อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง นี่เป็นปัจจัยทางประวัติศาสตร์ที่ส่งผลต่อราคาทองคำ เมื่ออัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ในระดับต่ำ ทางเลือกในการลงทุนอื่น ๆ อาจให้ผลตอบแทนต่ำหรือติดลบ ทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนในทองคำมากขึ้น แต่หากอัตราดอกเบี้ยสูง ความน่าสนใจในการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำก็จะลดลง

4. ความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากราคาทองคำถูกกำหนดเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ พวกมันจึงมีความสัมพันธ์แบบผกผันต่อกันอย่างชัดเจน นั่นคือทั้งสองมักเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้าม หากนักลงทุนขายดอลลาร์สหรัฐฯ ในตลาด ทองคำจะดูน่าสนใจมากขึ้น และส่งผลให้ราคาสูงขึ้น ในทางกลับกัน หากดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ราคาทองคำก็มักจะมีแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ตาม ควรทราบว่าสิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในทุกกรณี ส่วนใหญ่จะเห็นได้อย่างชัดเจนในช่วงวิกฤตหรือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่

5. ดัชนีราคาผู้บริโภคมักมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ เมื่อภาวะเงินเฟ้อสูง นักลงทุนจะมองหาสินทรัพย์ที่เชื่อถือได้มากกว่า จึงเลือกลงทุนในทองคำ ในทางกลับกัน หากภาวะเศรษฐกิจดี ความต้องการทองคำจะลดลง และราคาทองคำก็จะถูกลง

6. ประเทศผู้ผลิตทองคำ ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศผู้ผลิตทองคำ รวมถึงมาตรการคว่ำบาตรที่ถูกนำมาใช้กับประเทศเหล่านั้น สามารถส่งผลกระทบต่อระดับการผลิตทองคำ และทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีเอกสารอย่างเป็นทางการที่แสดงระดับการผลิตให้แก่นักลงทุนได้ทราบ ปัจจัยนี้จึงให้ข้อมูลน้อยที่สุดสำหรับการตัดสินใจลงทุน

การลงทุนในโลหะเงิน (XAG)

โลหะเงินเป็นโลหะยอดนิยมอันดับสองในหมู่นักลงทุน เช่นเดียวกับทองคำ โลหะเงินก็เคยถูกใช้เป็นสกุลเงินมาอย่างยาวนาน ตัวอย่างเช่น สกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิงของอังกฤษมีที่มาจากการเทียบค่าต่อโหละเงินหนักหนึ่งปอนด์ ปัจจัยส่วนใหญ่ที่ส่งผลต่อราคาโลหะเงินจะคล้ายคลึงกับทองคำ และแนวโน้มราคาของทั้งสองสินทรัพย์ก็มีความสัมพันธ์กัน อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างเล็กน้อยในเรื่องความผันผวน นั่นคือโลหะเงินมีความผันผวนน้อยกว่าทองคำ

การลงทุนในแพลทินัม (XPT)

แพลทินัมเป็นโลหะที่หายากที่สุดที่ใช้ในทางการเงิน ราคาของแพลทินัมส่วนใหญ่ถูกกำหนดโดยความต้องการทางอุตสาหกรรมและกระบวนการทำเหมือง เนื่องจากแหล่งผลิตกระจุกตัวอยู่ในบางประเทศมากกว่าทองคำ แพลทินัมจึงมีความผันผวนสูงกว่าโลหะอื่น ๆ ในตลาด นอกจากนี้ แพลทินัมยังได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของโลกมากกว่าโลหะชนิดอื่น

การลงทุนในทองแดง (XCP)

ทองแดงเป็นโลหะสีแดงอ่อนที่มีอุปทานจำกัด ผู้คนใช้ทองแดงในระบบท่อ สายไฟ เครื่องระบายความร้อนรถยนต์ และสิ่งจำเป็นอื่น ๆ เนื่องจากความเร่งรีบในการพัฒนาอุตสาหกรรมและระบบไฟฟ้า ความต้องการทองแดงจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก

หากคุณต้องการลงทุนในทองแดง คุณสามารถทำได้ทั้งทางตรงและทางทางอ้อม ในกรณีแรก คุณสามารถซื้อทองแดงแท่งหรือเหรียญทองแดงและเก็บไว้ตราบเท่าที่ราคาทองแดงยังแข็งค่า

นอกจากนี้ คุณยังสามารถลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองแดงได้ นักลงทุนสามารถซื้อหรือขายปริมาณทองแดงที่กำหนดในวันที่หมดอายุที่ระบุ

สำหรับการลงทุนทางอ้อม คุณสามารถซื้อหุ้นของบริษัทผลิตทองแดง เช่น BHP Group, Southern Copper หรือ Freeport-McMoRan นอกจากนี้ ยังมีกองทุน ETF ทองแดงที่ติดตามราคาทองแดง กองทุนเหล่านี้สามารถถือทองแดงแท่ง สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองแดง หรือหุ้นของบริษัทที่ทำเหมืองทองแดง ทางเลือกอื่น ๆ สำหรับการลงทุนทางอ้อมในทองแดงคือกองทุนรวมทองแดงและออปชั่น

เช่นเดียวกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ราคาทองแดงถูกขับเคลื่อนโดยอุปสงค์และอุปทาน และยังขึ้นอยู่กับกิจกรรมทางเศรษฐกิจโลกอย่างมาก มีความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างการเติบโตของ GDP จีนและราคาทองแดง เนื่องจากจีนมีส่วนแบ่งความต้องการทองแดงทั่วโลกมากที่สุด

อีกความสัมพันธ์ที่น่าสนใจคือระหว่างราคาทองแดงกับราคาน้ำมัน ราคาทองแดงจะเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน เนื่องจากความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น

ด้านล่างนี้คุณจะเห็นแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองแดงตั้งแต่ปี 2021

การลงทุนในแพลเลเดียม (XPD)

แพลเลเดียมเป็นโลหะที่คล้ายกับแพลตินัม มันเป็นองค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องแปลงตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับรถยนต์ นอกจากนี้มันยังถูกใช้ในการพัฒนาตัวตรวจจับคาร์บอนมอนอกไซด์อีกด้วย

หากคุณต้องการลงทุนในแพลเลเดียมโดยตรง คุณสามารถซื้อในราคาสปอตหรือผ่านสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเทรดแพลเลเดียมในรูปแบบสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFDs) ได้อีกด้วย

ปัจจัยหลัก ๆ ที่ขับเคลื่อนราคาแพลเลเดียมคืออุปสงค์และอุปทาน เนื่องจากผู้ขับขี่เปลี่ยนจากการใช้รถยนต์ดีเซลไปเป็นรถยนต์เบนซินซึ่งใช้แพลเลเดียมในเครื่องแปลงตัวเร่งปฏิกิริยา ความผันผวนในอุตสาหกรรมยานยนต์จึงส่งผลต่อราคาแพลเลเดียมด้วย

ในกราฟด้านล่างนี้ คุณจะเห็นผลการดำเนินงานรายสัปดาห์ของแพลเลเดียมตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021 

สรุปได้ว่าผู้ลงทุนมักเลือกโลหะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงเวลาที่ตลาดมีความไม่แน่นอน สินทรัพย์ประเภทนี้สามารถสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงกว่าและได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของตลาดน้อยกว่า