
เมื่อราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวอย่างต่อเนื่อง การคาดการณ์จุดกลับตัวอาจทำได้ยาก อย่างไรก็ตาม มีตัวบ่งชี้ทางเทคนิคบางตัวที่สามารถช่วยเทรดเดอร์วิเคราะห์สภาวะตลาดขั้นพื้นฐาน เพื่อหาจุดสูงสุดหรือต่ำสุดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
FBS ก้าวเข้าสู่ปีที่ 16
19 มิ.ย. 2025
กลยุทธ์
เมื่อราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวอย่างต่อเนื่อง การคาดการณ์จุดกลับตัวอาจทำได้ยาก อย่างไรก็ตาม มีตัวบ่งชี้ทางเทคนิคบางตัวที่สามารถช่วยเทรดเดอร์วิเคราะห์สภาวะตลาดขั้นพื้นฐาน เพื่อหาจุดสูงสุดหรือต่ำสุดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวบ่งชี้ RSI วิธีการใช้งานในการเทรดฟอเร็กซ์ และความแตกต่างจาก RCI
RSI (Relative Strength Index) เป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัมที่วัดความเร็วและความแรงของการเคลื่อนไหวราคาในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ โดยจะบอกเทรดเดอร์ว่าเมื่อไหร่ที่สินทรัพย์เข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) พูดง่าย ๆ ก็คือ RSI จะช่วยระบุว่าราคาสินทรัพย์ขึ้นสูงเกินไปหรือต่ำเกินไปหรือไม่ ซึ่งอาจทำให้เทรดเดอร์ตัดสินใจซื้อขายและทำให้แนวโน้มราคาเปลี่ยนทิศทางในที่สุด
RSI เป็นตัวบ่งชี้ประเภทออสซิลเลเตอร์ที่แสดงผลเป็นเส้นโค้งที่แกว่งตัวระหว่างค่าสูงสุดและต่ำสุด โดยทั่วไปเมื่อคุณเปิดแพลตฟอร์มซื้อขาย คุณจะพบกราฟ RSI แสดงอยู่ด้านล่างของกราฟราคาหลัก โดยมีเส้น RSI แกว่งตัวไปมาบนสเกล 0 ถึง 100
เมื่อราคาเคลื่อนที่ตามแนวโน้มใดแนวโน้มหนึ่ง เส้น RSI จะแกว่งตัวด้วยความเข้มข้นต่างกัน ขึ้นอยู่กับจำนวนและขนาดของราคาที่ปิดบวกและลบ โดยพื้นฐานแล้ว RSI จะเปรียบเทียบราคาปิดปัจจุบันของสินทรัพย์กับจุดสูงสุดและต่ำสุดก่อนหน้า เพื่อวัดโมเมนตัมของการเคลื่อนไหวของราคา
หากเส้น RSI อยู่เหนือเส้นกึ่งกลาง (50) นั่นแสดงว่าความเชื่อมั่นของตลาดในขณะนั้นเป็นขาขึ้น ในทำนองกลับกัน เส้นกึ่งกลางอาจจะถูกตัดข้าม ซึ่งหมายความว่าแนวโน้มมีโอกาสที่จะกลับตัวในอีกไม่ช้า แต่หากเส้น RSI พุ่งสูงเกินระดับ 70 หรือตกลงต่ำกว่าระดับ 30 นั่นจะส่งสัญญาณว่าสินทรัพย์อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป ในกรณีนี้ เทรดเดอร์อาจคาดหวังถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในความเชื่อมั่นของตลาด
ตัวบ่งชี้ RSI อาจเป็นเครื่องมือช่วยในการเทรดฟอเร็กซ์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อใช้กับกลยุทธ์การเทรดรายวัน
วิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ในการใช้ RSI คือการมองหาสัญญาณ overbought หรือ oversold เนื่องจากการเทรดรายวันจะเกี่ยวข้องกับการทำกำไรจากความเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้นภายในวันเดียวกัน จึงจำเป็นต้องปรับการตั้งค่า RSI ให้ใช้ช่วงเวลาที่สั้นลงเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำและเกี่ยวข้องมากขึ้น
เมื่อคุณสังเกตเห็นว่าเส้น RSI เข้าสู่เขต overbought หรือ oversold คุณสามารถเริ่มเตรียมพร้อมสำหรับการพักตัวที่อาจเกิดขึ้นได้ หากราคามีการเคลื่อนไหวภายในช่วงที่จำกัด และเขต overbought/oversold ตรงกับระดับแนวรับและแนวต้านที่ได้รับการยืนยันก่อนหน้านี้ โอกาสที่ราคาจะพักตัวก็มีสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากแนวโน้มปัจจุบันของตลาดแข็งแกร่ง ขอแนะนำให้รอสัญญาณยืนยันก่อนที่จะวางคำสั่งซื้อขายใด ๆ ในแนวโน้มที่แข็งแกร่ง ราคาอาจเคลื่อนที่ต่อไปเรื่อย ๆ แม้จะอยู่ในเขต overbought/oversold และอาจทำจุดสูงสุดหรือต่ำสุดใหม่ได้โดยไม่มีการดึงกลับอย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อคุณติดอยู่ในแนวโน้มที่แข็งแกร่ง วิธีปฏิบัติที่ดีที่สุดคือการเทรดไปในทิศทางเดียวกับการเคลื่อนที่ของราคา หากคุณทำเช่นนั้น ตัวบ่งชี้ RSI สามารถช่วยคุณหาจุดเข้าเทรดที่มีศักยภาพได้
ตัวอย่างเช่น หากแนวโน้มปัจจุบันเป็นขาขึ้น และ RSI บ่งชี้ว่าตลาดอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป ตลาดอาจเกิดการพักตัวเล็กน้อย การใช้สัญญาณเหล่านี้ช่วยให้คุณจับจังหวะเข้าเทรดในช่วงที่ตลาดดึงกลับแบบนี้ และเข้าสู่ตลาดในเงื่อนไขที่ทำกำไรได้ดีกว่า
หนึ่งในคุณสมบัติพิเศษของตัวบ่งชี้โมเมนตัมคือการเบี่ยงเบนของโมเมนตัม ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อทิศทางของตัวบ่งชี้โมเมนตัมเคลื่อนที่สวนทางกับแนวโน้มปัจจุบันของตลาด ตัวอย่างเช่น หากทั้งราคาและเส้น RSI กำลังร่วงลง แต่แล้วเส้น RSI กลับเริ่มพุ่งขึ้น นั่นแสดงว่ามีความเบี่ยงเบนของโมเมนตัมเกิดขึ้น
ความเบี่ยงเบนของโมเมนตัมเป็นสัญญาณบอกเทรดเดอร์ว่าโมเมนตัมของแนวโน้มปัจจุบันเริ่มชะลอตัว ซึ่งมีแนวโน้มจะนำไปสู่การกลับตัวของแนวโน้ม หากคุณเห็นว่าจุดสูงสุดใหม่หรือจุดต่ำสุดใหม่ของราคาไม่ได้รับการยืนยันบนกราฟ RSI คุณอาจต้องการเริ่มเตรียมพร้อมสำหรับการกลับตัวของแนวโน้ม
การใช้ตัวบ่งชี้ RSI ในการเทรดฟอเร็กซ์อาจเป็นประโยชน์อย่างมาก นี่คือสิ่งสำคัญที่คุณสามารถวิเคราะห์ได้เมื่อนำ RSI มาใช้ในกลยุทธ์การเทรดฟอเร็กซ์ของคุณ:
โมเมนตัมของแนวโน้ม — ตัวบ่งชี้ RSI แสดงให้เห็นถึงความเร็วและความแข็งแกร่งของแนวโน้ม ซึ่งสามารถนำมาใช้เพื่อกำหนดทิศทางของแนวโน้มในอนาคตอันใกล้ และประเมินว่ากลยุทธ์การเทรดของคุณมีความเหมาะสมกับสภาพตลาดปัจจุบันหรือไม่
ความเชื่อมั่นของตลาด - แม้ว่า RSI จะไม่สามารถระบุทิศทางแนวโน้มได้โดยตรง แต่การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงราคาล่าสุดสามารถช่วยคาดการณ์ทิศทางเคลื่อนไหวของตลาดในอนาคตได้
ศักยภาพในการกลับตัว - การรู้ว่าแนวโน้มปัจจุบันแข็งแกร่งเพียงใด หรือความเชื่อมั่นของตลาดเป็นอย่างไร สามารถบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้และจังหวะเวลาที่อาจเกิดการกลับตัวของราคาได้
จุดเข้าและออกตลาดโดยประมาณ - คุณสามารถมองหาความเบี่ยงเบนของโมเมนตัม หรือภาวะ oversold/overbought ของตลาด เพื่อหาโอกาสในการเข้าหรือออกจากตลาด
แม้ว่าการใช้ตัวบ่งชี้ RSI ในการเทรดฟอเร็กซ์จะมีข้อได้เปรียบหลายประการ แต่ตัวบ่งชี้นี้ก็ไม่สามารถเชื่อถือได้ 100% แม้ว่า RSI จะเตือนคุณเกี่ยวกับภาวะ overbought/oversold ของตลาด แต่มันก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะเกิดการดึงกลับของราคาหรือการกลับตัวของแนวโน้มและตัวมันเอง
เนื่องจากข้อจำกัดนี้ และเพื่อให้ได้รับการยืนยันเพิ่มเติม การใช้ตัวบ่งชี้ RSI ร่วมกับเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น Stochastic Oscillator, MACD เป็นต้น
RCI (Rank Correlation Index) เป็นอีกดัชนีสำคัญที่เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์มือใหม่มักสับสนกับ RSI
ตัวบ่งชี้ RCI มักถูกใช้ในการเทรดฟอเร็กซ์เพื่อตรวจจับและวัดความแข็งแกร่งและทิศทางของความสัมพันธ์ระหว่างคู่สกุลเงินต่าง ๆ การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบต่าง ๆ สามารถช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงในองค์ประกอบหนึ่งอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์ประกอบอื่นด้วยหรือไม่
เช่นเดียวกับ RSI ตัวบ่งชี้ RCI เป็นเครื่องมือที่เคลื่อนไหวระหว่าง +1 ถึง -1 โดย +1 จะบ่งชี้ว่ามีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกัน -1 จะบ่งชี้ว่ามีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงข้าม และ 0 จะบ่งชี้ว่าไม่มีความสัมพันธ์กันเลย ตัวอย่างเช่น ถ้าความสัมพันธ์ระหว่าง EURUSD และ XAUUSD เป็น 0.9 นั่นแสดงว่าทั้งสองคู่มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันอย่างชัดเจน ซึ่งหมายความว่าเมื่อราคาของคู่หนึ่งเคลื่อนไหวในทิศทางใด อีกคู่หนึ่งก็มักจะเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันด้วย
การรู้ความสัมพันธ์ระหว่างคู่สกุลเงินมีประโยชน์ในการวางแผนกลยุทธ์การเทรดของคุณ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยคุณในการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
ดังที่คุณได้เห็นแล้ว RSI และ RCI เป็นตัวบ่งชี้ที่แตกต่างกันมาก ในขณะที่ RSI นั้นวัดความเร็วและความแข็งแกร่งของการขึ้นลงของราคา RCI จะระบุความสัมพันธ์ระหว่างการเคลื่อนไหวของราคาปัจจุบันของคู่สกุลเงินหนึ่งกับอีกคู่หนึ่งในช่วงเวลาที่เลือก
ตลาดฟอเร็กซ์อาจเข้าใจยาก เทรดเดอร์ที่อยากประสบความสำเร็จจำเป็นต้องใช้ตัวบ่งชี้ ในบทความนี้คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวบ่งชี้ RSI และ RCI ความแตกต่างระหว่างทั้งสอง และวิธีนำไปใช้ในกลยุทธ์การเทรดเพื่อผลกำไรสูงสุด
โดยการลงทะเบียน คุณได้ยอมรับเงื่อนไขของ ข้อตกลงลูกค้า FBS และ นโยบายความเป็นส่วนตัว FBS และยอมรับความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการซื้อขายในตลาดการเงินระดับโลก