
ค่าสเปรดแตกต่างจากค่าคอมมิชชันอย่างไร?
ทั้งค่าคอมมิชชันแบบเดิมและค่าสเปรดทำหน้าที่เหมือนกัน นั่นคือเป็นค่าบริการให้โบรกเกอร์ แต่พวกมันจะทำงานต่างกัน
ค่าสเปรดจะรวมอยู่ในราคาที่แสดงให้เทรดเดอร์เห็นตอนเปิดคำสั่งซื้อขาย โดยค่าสเปรดอาจเป็นแบบคงที่หรือแบบลอยตัวก็ได้ ค่าสเปรดแบบลอยตัวโบรกเกอร์สามารถปรับตามสภาพตลาดได้ ส่วนค่าสเปรดแบบคงที่จะไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่าตลาดจะเป็นอย่างไร แต่จำไว้ว่าคุณต้องจ่ายค่าสเปรดหนึ่งครั้งต่อหนึ่งคำสั่งซื้อขาย
ส่วนค่าคอมมิชชัน โบรกเกอร์จะเรียกเก็บเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและไม่รวมอยู่ในราคาที่แสดง ส่วนใหญ่ค่าคอมมิชชันจะคงที่ นั่นหมายความว่าคุณจะจ่ายเท่ากันไม่ว่าจะเทรดมากหรือน้อย ค่าคอมมิชชันจะถูกคิดสองครั้งต่อคำสั่งซื้อขาย คือตอนที่เปิดและปิดคำสั่งซื้อขาย
ตัวเลือกไหนดีกว่าขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดและความต้องการส่วนตัว แต่เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ส่วนใหญ่มักจะเลือกค่าสเปรดมากกว่าเพราะมันสามารถปรับเปลี่ยนได้และให้โอกาสทำกำไรที่ดีกว่า
สกุลเงินต่าง ๆ ถูกกำหนดราคาอย่างไร?
การเทรดฟอเร็กซ์หมายถึงการซื้อสกุลเงินหนึ่งในขณะที่ขายอีกสกุลเงินหนึ่ง กล่าวอีกนัยหนึ่ง การเทรดฟอเร็กซ์นั้นเกี่ยวข้องกับการเทรดคู่สกุลเงิน ซึ่งจะแสดงอยู่บนกราฟ เช่น USDCAD หรือ EURUSD โดยสกุลเงินตัวแรกในคู่เรียกว่าสกุลเงินฐาน (base currency) และสกุลเงินตัวที่สองเรียกว่าสกุลเงินอ้างอิง (quote currency)
เมื่อมีการเสนอราคาคู่สกุลเงิน ราคาที่คุณเห็นจะแสดงจำนวนเงินของสกุลเงินอ้างอิงที่ต้องใช้เพื่อซื้อหนึ่งหน่วยของสกุลเงินฐาน ตัวอย่างเช่น หาก USDJPY กำลังถูกซื้อขายที่ระดับ 134.2600 นั่นหมายความว่าคุณต้องใช้เงิน 134.26 เยนญี่ปุ่น เพื่อซื้อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ

วิธีคำนวณค่าสเปรด
การรู้วิธีอ้างอิงราคาคู่สกุลเงินจะช่วยให้คุณคำนวณหาค่าสเปรดที่ต้องจ่ายได้ เมื่อดูที่ราคา Bid (ราคาขาย) และ Ask (ราคาซื้อ) ของคู่สกุลเงิน คุณจะเห็นว่าราคาทั้งสองนั้นไม่เท่ากัน การคำนวณหาค่าสเปรดทำได้โดยนำราคา Ask (ราคาซื้อ) ลบด้วยราคา Bid (ราคาขาย)